เที่ยวถนนข้าวสาร: สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ถนนข้าวสารเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพมหานคร และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจทุกแง่มุมของถนนข้าวสารที่มีชีวิตชีวา เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ถนนข้าวสารอยู่ที่ไหน และมีอะไรน่าสนใจ?
ถนนข้าวสารตั้งอยู่ในย่านบางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็นถนนสายสั้นๆ ความยาวประมาณ 400 เมตร แต่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ถนนสายนี้ได้รับฉายาว่าเป็น “ศูนย์กลางจักรวาลของนักแบ็คแพ็ค” เนื่องจากเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
สิ่งที่ทำให้ถนนข้าวสารโดดเด่นคือบรรยากาศที่ไม่เคยหลับใหล ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนของวัน คุณจะพบกับ:
- ร้านอาหารนานาชาติ ทั้งอาหารไทยดั้งเดิมและอาหารจากทั่วโลก
- บาร์และผับ ที่เปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีสดและเครื่องดื่มราคาย่อมเยา
- ร้านขายของที่ระลึก ที่มีสินค้าหลากหลายตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า ไปจนถึงงานศิลปะและหัตถกรรมท้องถิ่น
- ร้านนวดแผนไทย ที่ช่วยผ่อนคลายหลังจากวันที่เหนื่อยล้าจากการเดินทาง
- ร้านสัก สำหรับผู้ที่ต้องการเก็บความทรงจำแบบถาวร
นอกจากนี้ ถนนข้าวสารยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญของกรุงเทพฯ เช่น วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสำรวจเมืองหลวงของไทย
วิธีการเดินทางไปถนนข้าวสารจากเมืองใหญ่ต่างๆ
การเดินทางไปถนนข้าวสารมีหลายทางเลือก ขึ้นอยู่กับว่าคุณมาจากที่ไหน:
– จากสนามบินสุวรรณภูมิ
แท็กซี่: วิธีที่สะดวกที่สุดคือการนั่งแท็กซี่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับการจราจร ค่าโดยสารประมาณ 400 – 500 บาท
รถไฟฟ้า Airport Rail Link: นั่งจากสนามบินไปยังสถานีพญาไท จากนั้นต่อรถไฟฟ้า BTS ไปยังสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วนั่งเรือข้ามฟากหรือแท็กซี่ไปยังถนนข้าวสาร
รถบัสสาธารณะ: มีรถบัสหลายสายที่ให้บริการระหว่างสนามบินและใจกลางเมือง แต่อาจใช้เวลานานกว่าและอาจยากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่คุ้นเคยกับเส้นทาง
– จากสนามบินดอนเมือง
แท็กซี่: ใช้เวลาประมาณ 30 – 45 นาที ค่าโดยสารประมาณ 300 – 400 บาท
รถบัส A4: บริการรถบัสด่วนพิเศษจากสนามบินดอนเมืองไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นต่อรถเมล์หรือแท็กซี่ไปยังถนนข้าวสาร
– จากสถานีรถไฟหัวลำโพง
แท็กซี่: ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที ค่าโดยสารประมาณ 100 – 150 บาท
รถเมล์: มีรถเมล์หลายสายที่ผ่านถนนข้าวสาร เช่น สาย 2, 15, 44, 47, 59, 71
– จากสถานีขนส่งหมอชิต
แท็กซี่: ใช้เวลาประมาณ 30 – 40 นาที ค่าโดยสารประมาณ 150 – 200 บาท
รถไฟฟ้า BTS: นั่งจากสถานีหมอชิตไปยังสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วต่อเรือหรือแท็กซี่ไปยังถนนข้าวสาร
คำแนะนำ: สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครั้งแรก แนะนำให้ใช้บริการแท็กซี่หรือบริการรถรับส่งจากโรงแรม เพื่อความสะดวกและหลีกเลี่ยงความสับสนในการเดินทาง
ที่พักบริเวณถนนข้าวสาร ควรเลือกพักที่ไหนดี?
บริเวณถนนข้าวสารและพื้นที่โดยรอบมีที่พักหลากหลายรูปแบบให้เลือก ตั้งแต่โฮสเทลราคาประหยัดไปจนถึงโรงแรมระดับ 4 ดาว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกงบประมาณ:
พื้นที่ที่แนะนำให้พัก
บนถนนข้าวสารโดยตรง: เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศคึกคักและไม่กังวลเรื่องเสียงดัง มีโฮสเทลและเกสต์เฮาส์มากมายในราคาเริ่มต้นที่ 300-500 บาทต่อคืน
ถนนรามบุตรี: อยู่ติดกับถนนข้าวสาร แต่มีบรรยากาศที่เงียบสงบกว่าเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงถนนข้าวสารแต่ต้องการพักผ่อนในที่ที่เงียบกว่า
ถนนพระอาทิตย์: อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา มีโรงแรมระดับกลางถึงระดับสูง เหมาะสำหรับครอบครัวหรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น
บริเวณบางลำพู: มีที่พักหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เกสต์เฮาส์ไปจนถึงโรงแรมบูติก อยู่ไม่ไกลจากถนนข้าวสารและใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งบางลำพู
ข้อแนะนำในการเลือกที่พัก
จองล่วงหน้า: โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) และช่วงเทศกาลสงกรานต์ (เมษายน)
ตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวก: ที่พักหลายแห่งมี Wi-Fi ฟรี แต่บางแห่งอาจไม่มีเครื่องปรับอากาศหรือน้ำอุ่น
พิจารณาระดับเสียง: ห้องพักที่หันหน้าเข้าหาถนนอาจมีเสียงดังจนถึงดึก โดยเฉพาะในวันศุกร์และวันเสาร์
ความปลอดภัย: เลือกที่พักที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เช่น กล้องวงจรปิดหรือพนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
โรงแรมและโฮสเทลที่ได้รับความนิยมในย่านนี้ ได้แก่ Rambuttri Village Plaza, Buddy Lodge, Dang Derm Hotel, Khaosan Palace Hotel และ Nappark Hostel สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
อาหารบนถนนข้าวสาร กินอะไรดี? ซื้อที่ไหน?
ถนนข้าวสารเป็นสวรรค์ของนักชิม ด้วยร้านอาหารและแผงลอยมากมายที่เสิร์ฟอาหารจากทั่วทุกมุมโลก:
– อาหารไทยที่ต้องลอง
ผัดไทย: หาได้ง่ายตามรถเข็นริมถนน ราคาประมาณ 60-80 บาท
ต้มยำกุ้ง: ร้านอาหารไทยหลายแห่งในย่านนี้เสิร์ฟต้มยำกุ้งรสชาติดั้งเดิม
ส้มตำ: อาหารยอดนิยมจากภาคอีสาน มีรสชาติเผ็ดเปรี้ยว
ข้าวมันไก่: อาหารเช้ายอดนิยมที่หาทานได้ง่าย
ผลไม้สด: มีรถเข็นขายผลไม้สดหลายคัน โดยเฉพาะมะม่วงสุกกับข้าวเหนียว
– ร้านอาหารที่แนะนำ
Tom Yum Kung Restaurant: ร้านอาหารไทยดั้งเดิมที่เสิร์ฟอาหารรสชาติจัดจ้าน
Madame Musur: ร้านอาหารไทยภาคเหนือที่มีบรรยากาศดี
Buddy Beer Wine Bar & Restaurant: เหมาะสำหรับการนั่งชิลล์ ดื่มเบียร์ และทานอาหารตะวันตก
Mango Vegetarian & Vegan Restaurant: ทางเลือกที่ดีสำหรับมังสวิรัติและวีแกน
– แหล่งช้อปปิ้งอาหาร
7-Eleven: มีหลายสาขาบนถนนข้าวสาร เปิด 24 ชั่วโมง
ตลาดสดบางลำพู: อยู่ไม่ไกลจากถนนข้าวสาร เป็นแหล่งซื้ออาหารสดและอาหารพร้อมทาน
แผงลอยริมถนน: มีตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงดึก ขายอาหารหลากหลายประเภท
คำแนะนำ: อย่าลืมต่อรองราคาเมื่อซื้อของจากแผงลอย และระวังร้านอาหารที่คิดราคาแพงเกินจริงสำหรับนักท่องเที่ยว ควรตรวจสอบราคาก่อนสั่งอาหารเสมอ
สถานที่ที่ควรไปเยือนก่อนบนถนนข้าวสาร
เมื่อมาถึงถนนข้าวสาร มีหลายสถานที่ที่คุณควรแวะเยี่ยมชมเป็นอันดับแรก:
บาร์และสถานบันเทิง
Khao San Center: บาร์ขนาดใหญ่ที่มีดนตรีสดและเครื่องดื่มราคาย่อมเยา
The Club: ไนท์คลับยอดนิยมสำหรับคนรักดนตรี EDM
Brick Bar: บาร์ที่มีวงดนตรีสกาและร็อคไทย
Mulligans Irish Bar: บาร์สไตล์ไอริชที่มีเบียร์นานาชาติ
Roof Bar at Buddy Lodge: บาร์บนดาดฟ้าที่มีวิวสวยของถนนข้าวสาร
ร้านอาหารที่ไม่ควรพลาด
Ethos: ร้านอาหารเพื่อสุขภาพและมังสวิรัติที่มีชื่อเสียง
May Kaidee: ร้านอาหารมังสวิรัติไทยที่เปิดมานาน
Susie Q: ร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่มีค็อกเทลอร่อย
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
วัดชนะสงคราม: วัดเก่าแก่ที่อยู่ห่างจากถนนข้าวสารเพียงไม่กี่นาทีเดิน
ป้อมพระสุเมรุ: ป้อมปราการเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ถนนพระอาทิตย์: ถนนริมน้ำที่มีร้านกาแฟและร้านอาหารบรรยากาศดี
พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์: พิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมถนนข้าวสารคือช่วงเย็นถึงค่ำ เมื่อถนนมีชีวิตชีวาที่สุด และร้านค้าส่วนใหญ่เปิดให้บริการ แต่หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงฝูงชน ช่วงบ่ายก็เป็นเวลาที่ดีในการสำรวจพื้นที่อย่างสบายๆ
คำแนะนำเกี่ยวกับสภาพอากาศและการแต่งกาย
กรุงเทพฯ มีอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปี ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสภาพอากาศจึงเป็นสิ่งสำคัญเมื่อมาเที่ยวถนนข้าวสาร:
- สภาพอากาศตามฤดูกาล
ฤดูร้อน (มีนาคม-พฤษภาคม): อากาศร้อนจัด อุณหภูมิอาจสูงถึง 35-40 องศาเซลเซียส ควรหลีกเลี่ยงการออกนอกอาคารในช่วงกลางวัน
ฤดูฝน (มิถุนายน-ตุลาคม): มีฝนตกเป็นช่วงๆ บางครั้งมีฝนตกหนัก ควรพกร่มหรือเสื้อกันฝน
ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์): อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส เป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการท่องเที่ยว
- การแต่งกายที่เหมาะสม
เสื้อผ้าเบา ระบายอากาศได้ดี: เสื้อยืด กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงบาง
รองเท้าที่สวมใส่สบาย: รองเท้าแตะหรือรองเท้าผ้าใบ เนื่องจากคุณจะต้องเดินมาก
หมวกและแว่นกันแดด: ป้องกันแสงแดดที่แรงในช่วงกลางวัน
เสื้อบางๆ สำหรับกันลม: ร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าหลายแห่งเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นมาก
- สิ่งที่ควรพกติดตัว
ครีมกันแดด: จำเป็นมากสำหรับการป้องกันแสงแดดที่แรง
สเปรย์กันยุง: โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน
ผ้าเช็ดตัวเล็กๆ: สำหรับซับเหงื่อในวันที่อากาศร้อน
ขวดน้ำ: พกน้ำดื่มติดตัวเพื่อป้องกันการขาดน้ำ
ร่มพับ: ใช้ได้ทั้งกันแดดและกันฝน
คำแนะนำ: หากคุณวางแผนจะเยี่ยมชมวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใกล้เคียง ควรเตรียมเสื้อผ้าที่มิดชิดสำหรับใส่เข้าวัด (กางเกงขายาว เสื้อที่ปกปิดไหล่)
ของฝากและของที่ระลึกจากถนนข้าวสาร
ถนนข้าวสารเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ยอดเยี่ยมสำหรับของฝากและของที่ระลึก ด้วยราคาที่สามารถต่อรองได้และความหลากหลายของสินค้า:
– ของฝากยอดนิยม
เสื้อยืดลายไทย: มีลวดลายหลากหลาย ตั้งแต่โลโก้เบียร์ช้างไปจนถึงลายการ์ตูนไทย
กางเกงก๊อปปี้: กางเกงผ้าฝ้ายสบายๆ ที่มีลวดลายสดใส
เครื่องเงิน: เครื่องประดับเงินแท้ราคาย่อมเยา
ผ้าพันคอและผ้าคลุม: ทอมือจากผ้าฝ้ายหรือผ้าไหม
งานแกะสลักไม้: งานศิลปะไทยดั้งเดิมขนาดเล็กที่พกพาได้สะดวก
น้ำมันนวดไทย: น้ำมันสมุนไพรสำหรับนวดผ่อนคลาย
– อาหารและขนมที่ควรซื้อเป็นของฝาก
ทองม้วน: ขนมกรอบรสหวานที่ทำจากแป้งและน้ำตาล
กล้วยอบ: ขนมยอดนิยมที่เก็บได้นาน
มะม่วงอบแห้ง: ของว่างรสเปรี้ยวหวานที่ติดใจ
ชาไทย: ชาสำเร็จรูปที่สามารถชงดื่มได้ง่ายๆ
เครื่องเทศไทย: สำหรับผู้ที่ชอบทำอาหารไทยที่บ้าน
– แหล่งช้อปปิ้งที่ดีที่สุด
ร้านค้าริมถนนข้าวสาร: มีสินค้าหลากหลายตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงของที่ระลึก
ตลาดบางลำพู: อยู่ไม่ไกลจากถนนข้าวสาร มีสินค้าหัตถกรรมและเสื้อผ้าราคาถูก
ร้าน Boots และ Watson’s: สำหรับซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและสปาไทย
ร้านหนังสือ: มีหนังสือภาษาอังกฤษมือสองราคาถูก
คำแนะนำในการต่อรองราคา: การต่อรองราคาเป็นเรื่องปกติบนถนนข้าวสาร ควรเริ่มต้นที่ประมาณ 30 – 40% ต่ำกว่าราคาที่เสนอ และจบลงที่ประมาณ 20-30% ต่ำกว่าราคาเริ่มต้น การซื้อหลายชิ้นจากร้านเดียวกันจะช่วยให้คุณต่อรองได้ราคาที่ดีกว่า
สรุป
ถนนข้าวสารเป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยดั้งเดิมและบรรยากาศนานาชาติได้อย่างลงตัว ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คหรือนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่แท้จริงของกรุงเทพฯ ถนนข้าวสารก็มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายรอให้คุณได้ค้นพบ